Trending News

Subscribe Now

จัดลำดับงานล้นมือ ด้วยกระดาษ POST-IT

จัดลำดับงานล้นมือ ด้วยกระดาษ POST-IT

Podcast | The Organice

“ช่วยด้วย ! งานเยอะไปหมดจนไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี” ส่วนใหญ่คนที่ถามเรื่องนี้มักจะอยู่ในภาวะลมปราณใกล้จะแตกซ่านแล้ว คือเป็นช่วงที่งานล้นมือ งานมากกว่าปกติที่เคยเป็นมาก่อน

ถ้างานเยอะจนกวนใจแบบนี้ สิ่งที่เราอยากชวนให้คุณทำคือปิดคอมพิวเตอร์และมือถือ แล้วกลับสู่วิธีการสามัญ นั่นคือ การจัดลำดับงานด้วยการใช้ Post-it เพราะเมื่อคุณอยู่ในภาวะว่า แค่หลับตานึกในหัวก็ล้น พันกันไปหมด จะจดออกมาเป็นหน้ากระดาษหรือเรียงลำดับใน File ก็เกินจะทำได้

 

คุณต้องทำให้งานในหัวของคุณ ออกมาเป็นของที่จับต้องได้ค่ะ นั่นก็คือ ชิ้นกระดาษ Post-it นั่นเอง

เริ่มจากอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมก่อนมีดังนี้ค่ะ

  1. ปฏิทิน ตั้งโต๊ะหรือจะเป็นสมุด Planner ได้ทั้งหมดค่ะ ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ยิ่งดี จะเป็นขนาดที่วางโต๊ะใหญ่ๆ เลยได้หมด
  2. หาโต๊ะโล่งๆ ใหญ่ๆ 1 ตัว หรือจะทำขั้นตอนนี้บนพื้นหรือกำแพงก็ได้ค่ะ ไม่ว่ากัน
  3. Post-it หลายๆ สี สีละหลายๆ แผ่น
  4. ปากกาเมจิหัวใหญ่สีอะไรก็ได้ 1 สี
  5. ปากกาหัวเล็ก สีอะไรก็ได้ 1 สี
  6. ดินสอ 1 แท่ง

จากนั้นมาเริ่มขั้นตอนกันเลยค่ะ

ขั้นตอนการจัดลำดับงานล้นมือให้อยู่หมัด !

1. จัดหมวดหมู่ของงาน

  • เลือก Post-it ของแต่ละ Project ว่าจะเป็นสีอะไร เช่น Project A ใช้สีเหลือง Project B ใช้สีฟ้า Project C ใช้สีม่วง
  • เขียนชื่อ Project ทีละแผ่น จากนั้นแปะลงบนโต๊ะ หรือกำแพง หรือบนกระดาน หรือแม้แต่จะเป็นพื้นห้องก็ได้ แล้วเรียงเป็นหน้ากระดานเป็นแนวขวาง ไล่จากซ้ายไปขวา เว้นระยะห่างแต่ละแผ่นให้ดี Post-it สีนี้เราใช้เป็นหัวข้อเรื่องค่ะ อาจจะเน้นตัวโตๆ เลยก็ได้
  • ไล่ไปทีละ Project ว่ามีงานอะไรที่ต้องทำบ้าง โดยมีกติการการเขียนแต่ละแผ่นดังนี้
    1. 1 แผ่นคือ 1 งานที่ย่อยที่สุด เช่น เตรียม report เพื่อส่ง email ให้ลูกค้า เวลาเขียนลง Post-it ต้องแยกเป็น 2 แผ่นคือ แผ่นที่ 1 เขียนว่า เตรียม report และแผ่นที่ 2 เขียนว่า ส่ง Report ให้ลูกค้า
    2. ประโยคที่เขียนลง Post-it ต้องขึ้นต้นด้วยคำกิริยา หรือ Verb เท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่า คุณกำลังเขียนงานที่ต้องทำ
    3. ยังไม่ต้องใส่ใจเรื่องเวลาว่าทำอะไรเสร็จก่อนหลัง นึกอะไรได้เขียนให้เยอะที่สุด

ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานาน แต่ให้ใจเย็นๆ ลองนั่ง list ออกมา เสียเวลา 1 ชั่วโมงแต่ขั้นตอนนี้จะทำให้คุณเห็นสิ่งที่ต้องทำที่รอคุณทั้งหมดจริงๆ

  • เมื่อเขียนครบหมดแล้วให้ดูทีละแถวว่า งานไหนที่เรามอบหมายให้คนอื่นทำได้ งานไหนคืองานที่คนอื่นฝากเรามาอีกที ให้ดึงออกมาแล้วเลื่อนลงมาอยู่ด้านล่างสุดของแต่ละเแถว แต่ละแผ่นที่เลือกแล้วว่าให้คนอื่นทำให้ ให้เอาปากกาหัวเล็กเขียนกำกับไว้ว่า งานนี้ให้ใครทำ
  • เมื่อเหลือแต่งานของตัวเอง ให้เรียงลำดับว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง ด้วยการย้ายตำแหน่ง Post-it ขึ้นลงไปมา จนได้ตำแหน่งก่อนหลัง ทำอย่างนี้จนครบทุก Project
  • กำหนด วันที่จะต้องทำเรื่องนั้นๆ ด้วยการใช้ดินสอเขียนที่มุมกระดาษด้านขวาบน
  • จากนั้นเอา Post-it ของทุก Project ที่เป็นของเรานี้ไปแปะบน Calendar ตอนนี้คุณจะเริ่มเห็นแล้วว่า มีงานไหนที่ชนกันและเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเสร็จทั้งหมด ให้ขยับ post it จนได้วันที่เป็นไปได้จริงๆ
  • เขียนวันที่กำกับที่มุมขวาอีกครั้งด้วยปากกา โดยในครั้งนี้ให้เขียนชื่อโปรเจ็คที่มุมซ้ายบนเพิ่มด้วย
  • จากนั้นให้ใช้ Program Calendar หรือถ้าคุณใช้สมุด Planner ให้แปลง Post-it เหล่านั้น ลงในรูปแบบที่คุณจะพกพาใช้งานได้จริง ถ้าเป็น Program Calendar อยากให้คุณกำหนดเวลาเริ่มและสิ้นสุด อย่าตั้งเป็น All day
  • ตั้ง Notification เตือนเฉพาะ Task แรกของตอนเช้า และ Task แรกของตอนบ่ายหลังพักเที่ยง ด้วยวิธีนี้จะไม่ทำให้คุณต้องมาพะวงกับ Notification บ่อยๆ แค่เช้าและบ่ายโมงเพื่อเรียกให้คุณมาทวนดูว่าเช้านี้ต้องทำอะไร บ่ายนี้ต้องทำอะไร

2. มอบหมายงาน

10 ขั้นตอนด้านบนทำเสร็จแล้ว ให้เอา Post-it ที่เราคัดแล้วว่าเป็นงานคนอื่น กำหนดเฉพาะวันที่แล้วเอาไปให้คนที่เกี่ยวข้อง ต้องใจแข็งที่จะไม่เอากลับมาเพราะเราวางตารางของเราไว้หมดแล้ว เพราะถ้าเอากลับมาเราต้องมานั่งทำใหม่อีกครั้ง หรือก็ต้องต่อคิวจาก Task ที่เราวางไว้ของแต่ละวัน

วิธีนี้จะช่วยให้คุณคัดเฉพาะงานตัวเอง ออกมาจากงานที่ไม่ใช่เรา ช่วยให้คุณได้เรียงลำดับความสำคัญของงาน ว่าขั้นตอนไหนต้องทำก่อนและหลัง ที่สำคัญทำให้คุณรู้ด้วยว่าแต่ละงานต้องเสร็จเมื่อไหร่ งานไหนที่คิวชนกันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ต้องรีบปรึกษากับหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน ซึ่งหลายครั้งคุณจะพบว่าเพื่อนๆ ช่วยคุณได้ เพียงแต่เค้าไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี Task นี้ที่เค้าต้องทำ

3. ปฏิเสธงาน

จัดการทุกอย่างเรียบร้อยเข้าที่แล้วนี่เป็นการตั้งหลัก หลังจากนี้คุณต้องให้ Post-it ที่เป็นชื่อคนอื่นเป็นสัดส่วนที่น้อยมากๆ หรือปฏิเสธให้กลายเป็น 0 ถ้าช่วงนั้นงานหลักของเราแน่นจริงๆ

4. วางแผนงานในอนาคต

จบวันต้องมานั่งดูว่าเราทำได้ตามที่คิดไว้หรือไม่ แล้วการวางแผนเรื่องนี้ของ Project นี้ในอนาคตจะไม่คลาดเคลื่อน

ติดตามสาระการจัดการดี ๆ กับ The Organice Podcast ที่จะมาชวนคุณพูดคุยกัน ว่าด้วยเรื่องการจัดการตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ ให้ชีวิตของคุณ  Nice ขึ้นได้ทุกวัน อัพเดทกันได้ทุกวันศุกร์ที่ www.creativetalklive.com หรือ Subscribe กันได้ที่ CREATIVE TALK Podcast ในช่องทางที่คุณสะดวกกันได้เลย

Related Articles

เทรนด์ Startup ต่างประเทศมาแรงในปี 2019

ต่อเนื่องจากงาน South by South West ที่จัดขึ้นที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่งานนี้นอกจากจะมีการบรรยายสัมมนาเรื่อง Branding...
Entrepreneur | Morning Call | Podcast

ฝึกพูด 4 คำเพื่อเป็นคนน่ารักในทุกสถานการณ์

คน “น่ารัก” นี่ไม่ใช่คำที่จำกัดเฉพาะกับเด็กแก้มยุ้ยเท่านั้น แต่ใช้ได้กับคนทุกวัย คนน่ารักเป็นคนที่ใคร ๆ ก็อยากเข้าหา อยากอยู่ใกล้ อยู่ด้วยแล้วก็สบายใจ มีอะไรดี...
Podcast | The Organice
dolor tempus diam fringilla Praesent non sit Phasellus