คนจำนวนไม่น้อยมีปัญหาในการค้นหาตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองชอบ ถนัด หรือต้องการอะไร ซึ่งนับว่าอึดอัดพอสมควร
เราอยากช่วยงานคนอื่น ๆ แต่พอเขาถามว่าเราถนัดทำอะไรกลับตอบไม่ได้ การที่เราไม่รู้ว่าเราชอบอะไร ไม่เพียงจะทำให้เราปวดหัวกับความไม่เข้าใจตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงการเลือกเรียน เช่น ไม่รู้ว่าควรเรียนสายไหน คณะอะไร เป็นต้น พอไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร บางคนก็ไปโฟกัสว่างานอะไรทำแล้วได้เงินเยอะแทน
สิ่งที่น่าสนใจคือ ทำไมเราต้องหาสิ่งที่เราถนัด ชอบ หรืออยากทำ มีคนพูดประโยคหนึ่งไว้ว่า “ถ้าได้ทำงานที่รัก เราก็จะไม่ต้องทำงานอีกเลยตลอดชีวิต” ซึ่งนั่นหมายความว่าทุกเช้าที่เราตื่นมาก็จะเป็นเหมือนการได้ทำสิ่งที่ชอบและรัก และจะไม่รู้สึกเหนื่อย แม้จะเจอปัญหาหรืออุปสรรค เราจะรู้สึกดีที่ได้แก้ไขสิ่งเหล่านั้น
มีคนถามว่าทำยังไงถึงจะได้เจอสิ่งที่เราชอบหรือรัก?
คำตอบคือ เราต้องลอง ถ้าเราไม่เคยลอง เราก็จะไม่มีทางรู้ว่ามันใช่หรือไม่ใช่ ในขณะที่บางคนอาจจะเชื่อเพื่อนง่าย เพื่อนแนะนำให้ไปทำอะไรก็ทำ แต่เอาเข้าจริงถ้าเราได้ไปลองจริง ๆ มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราชอบก็ได้
แต่บางครั้งคนเราในต่างวัย ต่างวาระ ต่างประสบการณ์ อาจส่งผลให้เรามีความคิดหรือความชอบที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา สิ่งที่เราเคยไม่ชอบเมื่อก่อน ตอนนี้อาจจะชอบ สิ่งสำคัญคือต้องลอง ผมเองถือว่าเป็นคนโชคดีคนหนึ่งที่รู้ตัวว่าชอบการวาดรูป การออกแบบ การดีไซน์ เลยมุ่งไปทางนี้โดยตรงและจบมาทำสายงานดีไซน์
แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่เราชอบ ถนัด หรือรักอาจจะไม่ได้มีสิ่งเดียวก็ได้ หลังจากที่ผมเรียนสายดีไซน์ ทำงานสายดีไซน์ เปิดบริษัทดีไซน์เป็นของตัวเอง วันเวลาผ่านไป ช่วงหลังผมค้นพบสิ่งที่ชอบสิ่งอื่น นั่นก็คือ การสอน การพูด การบรรยาย ซึ่งการชอบสิ่งใหม่ ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ชอบสิ่งเก่า แต่เป็นการค้นพบอีกสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขเท่านั้นเอง
สุดท้ายแล้วคำแนะนำสำหรับคนที่หาตัวเองไม่เจอนั่นก็คือ ออกไปค้นหาตัวเอง การนั่งเล่นโซเชียล หรือทำอะไรซ้ำ ๆ ทุกวันไม่ได้ช่วยให้หาตัวเองได้เจอ เช่น เราเขียนหนังสืออยู่ซ้ำ ๆ ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ชอบมัน ลองไปทำอะไรที่ไม่เคยทำดู ไม่แน่ว่าเราอาจค้นพบสิ่งที่เราถนัดใหม่ ๆ แล้วทิ้งสิ่งที่เคยทำเดิม ๆ ไปเลยก็ได้
ผมมีเพื่อนที่ทำงานสายดิจิทัลที่ปัจจุบันนี้อุทิศเวลาเกือบครึ่งหนึ่งในแต่ละเดือน ทุ่มเทให้กับการปลูกข้าว เพราะเขาเจอแฟนที่ต่างจังหวัด และมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด เขาบอกว่าแค่เขาขับรถหันหลังให้กับเมืองแค่ 10-20 นาที เขาก็ค้นพบธรรมชาติแล้ว
ไปลองสิ่งใหม่ ๆ ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ลองเดินทางไปเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะเที่ยวน้ำตก หรือปีนผา ลองไปเพื่อให้เจอตัวเอง
ส่วนเพื่อนผมอีกคนบอกว่า ความจริงเขาไม่ต้องเจอตัวเองก็ได้ว่าตัวเองเก่งหรือถนัดอะไร เพราะบางทีเขาอาจจะเป็นคนที่ทำได้ทุกเรื่อง จัดการได้ทุกเรื่องก็ได้และมันไม่แปลกที่เขาจะเป็นเป็ด ซึ่งนี่ก็นับว่าเป็นหนึ่งในข้อดีที่แตกต่างจากคนอื่นเหมือนกัน
ภาพประกอบบทความจาก cdd20, Pixabay
ถอดความจาก: Morning Call Podcast โดยคุณเก่ง สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม
ฟัง EP. นี้แบบเต็ม ๆ ได้ที่: SOUNDCLOUD, Spotify, PodBean
บทความที่คุณอาจสนใจ
เส้นบาง ๆ ระหว่างคำด่ากับคำสอน
เส้นบาง ๆ ระหว่างคำด่ากับคำสอนอยู่ห่างกันแค่นิดเดียวเท่านั้น ในมุมมองของลูกน้องอาจจะคิดว่า อยากได้คำสอนหรือ Feedback จากหัวหน้า แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือคำบ่นหรือคำด่าแทน ในขณะที่มุมมองของหัวหน้าอาจจะคิดว่าสิ่งที่พูดหรือบ่นคือเป็นการสอนต่างหาก ดังนั้น…