“แล้วมาพูดอะไรเอาตอนนี้
รู้ตัวบ้างไหมว่าความน่าเชื่อถือของตัวเอง
มันเหลือแค่ไหนแล้ว
ตอนนี้พี่ไม่รู้จะเชื่ออะไรเต้ยได้แล้ว”
เต้ย ตัวละครจาก “เลือดข้นคนจาง” ที่ใช้อารมณ์นำการกระทำทุกอย่าง ทั้งอารมณ์โกรธ รัก หลง กำลังถูกต้อนให้ยอมรับในการกระทำที่ตัวเองไม่อยากให้ใครต้องมารับรู้ และเพราะการที่เต้ยใช้อารมณ์นำนี่เอง สิ่งที่ตามมาทุกครั้งคือต้องมานั่งแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าเราจะระมัดระวังกับทุกการกระทำมากขนาดไหน มันต้องมีซักครั้งที่เราพลาดไม่เป็นท่า หรือแม้แต่พลาดซ้ำซ้อนชนิดที่สำนึกผิดไม่ทัน สิ่งแรกที่ต้องเตือนตัวเองทุกครั้งคือ “คนเราผิดพลาดกันได้”
สร้างเรื่อง แถไถ โกหกไปเรื่อย นอกจากจะไม่เปลี่ยนความจริงที่เราเป็นคนผิดในเรื่องนี้ได้แล้ว ยังทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเราลงไปอีก สิ่งที่ควรทำคือรีบตรวจสอบว่าผลกระทบจากสิ่งที่เราทำพลาดไปมีเรื่องอะไรบ้าง จากนั้นจัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหาก่อนหลังให้ดี แล้วลงมือแก้ไขผลที่เกิดจากการกระทำของเราให้เร็วที่สุด
ในฉากนี้สารวัตรเจ้าของคดีที่นอกจากจะทำหน้าที่สืบสวนอย่างหนักหน่วงแล้ว สารวัตรซึ่งแทนตัวเองว่า “พี่” ก็กำลังสอนบทเรียนสำคัญในชีวิตของเต้ยด้วยเช่นกัน
เต้ยต้องรู้ว่า … ไม่ว่าเรื่องนั้นจะจริงซักแค่ไหน แต่ถ้าถูกเล่าออกไปหลังคำหลอกลวง ก็มีค่าไม่ต่างอะไรกับคำโกหก
ถ้ามองย้อนกลับมาสักนิด เราจะเห็นว่าคนที่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเต้ยนั้นอยู่ไม่ไกล กลับเป็น พล.ต.ต. วิเชียร หรือ “คุณพ่อ” ของเต้ยนั่นเอง
หลังจากที่ผู้บังคับบัญชาได้เคยตักเตือนให้วิเชียรลดบทบาท อย่าปรากฎตัวพร้อมกับภรรยาและครอบครัวระหว่างสืบสวนคดี แต่เมื่อเหตุการณ์งวดมาจนถึงคราวลูกชายถูกสงสัยว่ากระทำความผิด วิเชียรเลือกที่จะขอย้ายตัวเองออกจากตำแหน่งปัจจุบันไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีอำนาจเกี่ยวข้องกับพนักงานสอบสวน
นอกจากจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบในการกระทำของสมาชิกในครอบครัวแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่า วิเชียร คำนึงถึงคนรอบข้างในที่ทำงาน ไม่ต้องการให้ผู้บังคับบัญชาและพนักงานสอบสวนต้องอึดอัดใจ ให้ทุกคนสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเป็นอิสระจากความสัมพันธ์ส่วนตัว เมื่อเหตุการณ์นี้จบลง วิเชียรจะกลับมาทำงานได้โดยไม่ติดใจใด ๆ กับคนที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าปัญหานั้นจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ อย่างไรเสียทุกปัญหาก็ต้องจบลงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ลองถามตัวเองว่าเราอยากถูกจดจำในแบบไหน คนที่หนีปัญหาจนหาทางลงไม่ได้ หรือคนที่ยืนหยัดจนน่วมแต่ก็ผ่านเรื่องนั้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ภาพจาก : LINE TV