เมื่อตอนที่แล้วเราได้พูดถึงศาสตร์แห่งการผัดวันประกันพรุ่งไว้ว่า มนุษย์ทุกคนล้วนแต่เป็นคนผัดวันประกันพรุ่ง ชอบทำงานกระชั้นชิด พอผลลัพธ์ออกมาก็ไม่เรียบร้อย ทีนี้เราจะมาพูดถึงวิธีแก้ไขโรคผัดวันประกันพรุ่งกัน โดยบทความในวันนี้นำมาจากหนังสือของ HBR : Guide to being more productive ในบทที่ 26 ชื่อว่า How to beat procrastination นั่นเอง
ในหนังสือเขียนไว้ว่ามนุษย์มีนิสัยชอบผัดวันประกับพรุ่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ในหนังสือได้มีการเขียนถึงวิธีการให้คุณสามารถเอาชนะความขี้เกียจได้ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อหลัก ดังนี้
1. ทำให้ประโยชน์ที่เราได้รับจากการทำงานเห็นภาพชัดขึ้น
บางครั้งการที่เราผัดงานออกไป เป็นเพราะเรามองไม่เห็นภาพใหญ่ ไม่รู้ว่าทำแล้วจะเกิดอะไรขึ้น มีประโยชน์อย่างไรกับเรา ดังนั้นทางแก้แรกคือต้องทำให้ประโยชน์ที่เราจะได้จากการลงมือทำเป็นรูปธรรมและยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยทำได้ 3 อย่าง
- เขียนผลลัพธ์ให้เห็น
การเขียนให้เห็นว่าเมื่อคุณทำงานสำเร็จลุล่วงแล้ว มันจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ดีแค่ไหน เช่น หากคุณตั้งเป้าเขียนหนังสือให้จบ ความยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นหลังเขียนจบของคุณคืออะไร เป็นการทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นนั่นเอง
- สัญญาต่อหน้าสาธารณะชน
หนึ่งเคล็ดลับที่คนทำบ่อย โดยการพูดสิ่งที่จะทำออกมาต่อหน้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพูดให้เพื่อนได้ยิน หรือโพสต์ในโซเชียลมีเดีย วิธีนี้จะทำให้คุณรู้สึกว่าได้สัญญากับทุกคนไปแล้ว และต้องทำตามให้สำเร็จ นอกจากนั้นยังเป็นการทำให้เป้าหมายหลังสำเร็จผลดูยิ่งใหญ่ขึ้นได้อีกด้วย
- คิดถึงข้อเสีย
ให้คิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเราทำตามสิ่งที่ตั้งเป้าไว้ไม่สำเร็จ คล้ายกับข้อแรกที่เราต้องเขียนผลลัพธ์ให้เห็น แต่เป็นด้านตรงข้าม
2. ทำให้สิ่งที่เราต้องทำดูเล็กลง
คือการทำให้งานที่คุณรุ้สึกว่าหนักหนา เหนื่อยยาก ดูไม่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้หนักหนาเกินกว่าจะทำ โดยมีวิธีการ 3 ข้อ ดังนี้
- กำหนดก้าวแรกให้ชัดเจน
ยกตัวอย่างเช่น คุณอยากเรียนภาษาที่สาม มันอาจจะเป็นภาพว้างเกินไปจนทำให้ท้อได้ แต่หากลองเปลี่ยนมาตั้งเป้าหมายเป็นขั้นตอน โดยเริ่มจากโทรหาสถาบันสอนภาษาก่อน เมื่อก้าวแรกชัด ก็จะทำให้คุณมองเห็นภาพว่าต้องทำอะไร และค่อย ๆ ทำต่อไปได้ด้วยดีนั่นเอง
- ให้รางวัลแก่ก้าวแรก
เป็นการกำหนดรางวัลให้ตัวเองหลังจากที่เราประสบความสำเร็จในขั้นตอนแรก เช่น หากโทรหาสถาบันสอนภาษาครบ 3 ที่จะได้กินช็อกโกแลต 1 แท่ง หรือได้ดูหนัง 1 เรื่อง เป็นต้น
- ขจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคออกไป
โดยให้เราดูว่าอะไรที่จะเป็นปัญหาขัดขวางให้เราทำตามเป้าไม่สำเร็จ เช่น หารายชื่อสถาบันสอนภาษาไม่เจอ ไม่มีเวลาโทร และหาทางแก้ปัญหาออกมา เช่น หากไม่มีเวลาโทรก็กำหนดช่วงเวลาลงไปในตารางว่ากี่โมงเราถึงจะเริ่มโทร และจะเสร็จกี่โมง
ทั้งหมดนี้คือวิธีการแก้อาการผัดวันประกันพรุ่ง โดยสรุปก็คือทำอย่างไรก็ได้ ให้สิ่งที่เราต้องทำเล็กลง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ยิ่งใหญ่ขึ้นนั่นเอง
เรียบเรียงโดย รมิตา ตั้งกุลบริบูรณ์