Trending News

Subscribe Now

ตัวเลขแคลลอรี่ที่เขียนอยู่บนฉลากนั้น ไม่เป็นจริงตามที่เขียน?

ตัวเลขแคลลอรี่ที่เขียนอยู่บนฉลากนั้น ไม่เป็นจริงตามที่เขียน?

Morning Call | Podcast

จากบทความในนิตยสาร Science Illustrated ฉบับเดือนเมษายน ได้มีการพูดถึงเรื่อง “ฉลากอาหารโกหกเรา” ซึ่งในบทความนี้ได้ยกตัวอย่างอาหารจำนวน 4 ชนิด ได้แก่ เนื้อดิบ เนื้อบด ถั่วและข้าว ที่ให้พลังงานแก่ร่างกายไม่ตรงกับฉลากที่ระบุไว้ เนื่องจากร่างกายต้องใช้พลังงานในการย่อยอาหาร

เนื้อดิบ

ร่างกายของมนุษย์มักจะได้พลังงานจากอาหารประเภทโปรตีนน้อยกว่าที่ระบุบนฉลากมาก เนื่องจากในการย่อยโปรตีน ฟันกราม กระเพาะและลำไส้ของต้องทำงานหนัก โดยใช้พลังงาน 30% จากอาหารที่กินเข้าไป นอกจากนี้โปรตีนยังประกอบด้วยกรดอะมิโนที่ซับซ้อนจึงทำให้ย่อยยากกว่าคาโบไฮเดรตถึง 3 เท่า และยากกว่าไขมันถึง 10 เท่า ดังนั้น ถ้าหากบนฉลากระบุว่าให้พลังงาน 250 แคลอรี่ ร่างกายจะได้รับเพียง 210 แคลอรี่เท่านั้น

เนื้อบด

การเตรียมอาหารโดยนำไปผ่านกรรมวิธีหรือความร้อน จะช่วยดึงพลังงานจากอาหารได้มากขึ้นจากปริมาณเดียวกัน เนื่องจากความร้อนทำให้เอ็น เนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันกันแยกส่วนออกจากโปรตีน และทำให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจากพลังงานที่ระบุบนฉลาก 250 แคลอรี่ ร่างกายจะได้รับเพียง 225 หรือ 210 แคลอรี่ เนื่องจากเนื้อดิบใช้พลังงานในการย่อยมาก ถัดมาคือเนื้อสับละเอียด เนื้อปรุงสุก และเนื้อสับละเอียดปรุงสุก ตามลำดับ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าปริมาณอาหารที่เราได้รับมีส่วนช่วยพัฒนาสมองให้มีขนาดใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้เป็นโรคอ้วนได้เช่นกัน

ถั่ว

เป็นที่ทราบกันดีว่าถั่วเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง แต่ถ้าหากบนฉลากระบุพลังงาน 360 แคลอรี่ ร่างกายเราจะได้รับเพียง 245 แคลอรี่เท่านั้น เนื่องจากผนังเซลของถั่วเปลือกแข็งทนต่อการย่อย จึงทำให้น้ำย่อยในเอนไซม์และระบบย่อยไม่สามารถดึงสารอาหารที่อยู่ในเซลล์มาใช้ได้ ซึ่งการกินถั่วเปลือกแข็งนั้นให้พลังงานมากกว่าเค้ก แต่พลังงานส่วนใหญ่ของถั่วเปลือกแข็งนั้นมาจากไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งดีกว่าไขมันอิ่มตัวในเค้ก

ข้าว

การกินขนมปังขาว/เนยแข็งที่ผ่านกรรมวิธี อาจทำให้อ้วนกว่าขนมปังไม่ขัดสีหรือเนยแข็งที่ไม่ผ่านกรรมวิธี เพราะกระบวนการผลิตขนมปังขาว คือการนำข้าวสาลีมาบดละเอียดและกระบวนการผลิตเนยแข็งที่ผ่านกรรมวิธี คือการนำเนยมาต้ม ทำให้เวลาที่กินเข้าไปใช้พลังงานในการย่อยน้อยกว่า จากฉลากที่ระบุพลังงาน 295 แคลอรี่ ร่างกายจะได้รับเพียง 265 แคลอรี่หรือ 235 แคลอรี่  แต่ถ้าเลือกกินขนมปังไม่ขัดสี/เนยแข็งไม่ผ่านกรรมวิธี จะใช้พลังงานในการย่อยมากกว่า ซึ่งใยอาหารจากขนมปังไม่ขัดสี จะช่วยลดการรับพลังงานเข้าสู่ร่างกายและเพิ่มการเผาผลาญ ส่งผลให้ใช้พลังงานในการย่อยมากว่า

จากข้อมูลข้างต้น อาจกล่าวได้ว่า บางทีฉลากอาจไม่ได้โกหก เพียงแต่ร่างกายได้รับพลังงานไม่เท่ากับตัวเลขที่เขาระบุเอาไว้เนื่องจากอาหารแต่ละประเภท ใช้พลังงานในการย่อยต่างกันนั่นเอง

ภาพประกอบบทความจาก Couleur, Pixabay

ถอดความจาก: Morning Call Podcast โดยคุณเก่ง สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม
ฟัง EP. นี้แบบเต็ม ๆ ได้ที่: SOUNDCLOUD, Spotify, PodBean

Related Articles

Work From Home: Take It Seriously ถึงเวลาแล้วที่ต้องจริงจัง?

ในวันที่เรามองเห็นแล้วว่า COVID-19 จะอยู่กับเราไปอีกพักใหญ่ มากกว่าแค่การทำความคุ้นเคยกับ Work from Home แต่เรากำลังเดินทางเข้าสู่วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ บริษัทและพนักงานควรต้องคิดและเตรียมตัวเตรียมใจในเรื่องอะไรกันบ้าง ฟังคำตอบเรื่องนี้ได้ใน…

Podcast

เปิดอาณาจักรต้นกำเนิดช็อกโกแลต มีที่มาที่ไปอย่างไร

ครั้งนี้เราก็ยังอยู่กับเรื่องของช็อกโกแลตกันอีกแล้ว จากตอนเดิมที่แล้วที่มาไขข้อสงสัยกันว่า ทำไมช็อกโกแลตถึงต้องทำเป็นแบบแท่ง และต้องละลายในปาก คราวนี้จะมาพูดถึงขั้นตอนการผลิตช็อกโกแลตกันว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมเราถึงชอบกินมัน ไปจนถึงทำไมสุนัขบางตัวขนมชนิดนี้แล้วเสียชีวิต มาติดตามไปด้วยกัน จุดกำเนิดของช็อกโกแลตมาจากต้นโกโก้ ต้นไม้หน้าตาค่อนข้างประหลาดที่คนชอบกินช็อกโกแลตหลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็นของจริง…

Creative/Design | Design You Don't See | Podcast

เทคนิคกระจายงานอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับตำแหน่งผู้บริหาร มีเรื่องที่ทำประจำเรื่องหนึ่งคือ ‘การกระจายงาน’ หลายคนมีปัญหาว่ากระจายงานไปแล้ว ลืมว่ากระจายไปให้ใคร? จะทำยังไงให้ไม่ลืมบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วการลืมเป็นปัญหาที่ปลายเหตุเพราะคุณควรจะแก้ที่ต้นเหตุนั่นคือ ดังนั้น วันนี้เราจึงอยากนำเสนอ…

Podcast | The Organice
Donec lectus Sed ut libero odio