คุณจะทราบได้อย่างไร ว่าวันนี้สินค้าหรือบริการของคุณดีที่สุดสำหรับผู้บริโภคแล้วหรือยัง?
ถ้าพูดถึงเรื่องการทำ Digital Marketing ในปัจจุบันมีคนจำนวนมากพูดถึงการทำ A/B Testing ว่าเป็นพื้นฐานสำคัญที่นักการตลาดยุคใหม่ต้องเข้าใจและพัฒนาให้องกรค์ของตนประสบความสำเร็จมากขึ้นไปกว่าเดิม ทั้งในแง่ของผลกำไรและความพึงพอใจของผู้บริโภค
ขนาดโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram ยังต้องทำ A/B Testing Ads แล้วเจ้าของแพลตฟอร์มเองจะไม่ทำได้อย่างไร?
วันนี้ Creativetalklive จะมาเล่าให้ฟังถึงวิธีการทดสอบ A/B Testing ของ Instagram แม้จะเป็นแอพลิเคชั่นชื่อดังระดับโลก ก็ยังมีการพัฒนาและปรับตัวให้ทันกับผู้ใช้งานปัจจุบันอยู่อย่างสม่ำเสมอ
A/B TESTING คืออะไร?
ทุกวันนี้เราไม่มีทางรู้เลยว่า IG Story ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ผู้ใช้งานพอใจกับมันหรือยัง ตราบใดที่เราไม่เคยสร้างตัวเปรียบเทียบขึ้นมาเพื่อดูว่าแบบไหนคนสนใจมากกว่ากัน
A/B Testing หรือการทำ Split test คือการทดสอบชิ้นงานที่แตกต่างกัน 2 ชิ้นขึ้นไป เพื่อหาว่าตัวแปรแบบไหนที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานของเรามากที่สุด ทำให้นักการตลาดเข้าใจลูกค้าและนำเสนอสิ่งที่ถูกใจลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น
เช่นในกรณีของ Instagram กำลังทำการทดสอบ IG Story โดยมีการสุ่มบาง Account ให้มีหน้าตา Interface ต่างไปจากเดิม
INSTAGRAM กำลังทำการทดสอบอะไรบ้าง?
ด้านซ้ายเป็นเมนูการถ่ายภาพหรือวีดีโอของ IG Story ปัจจุบัน ส่วนทางด้านขวาคือเมนูของ IG Story แบบใหม่ที่ Instagram กำลังทดสอบกับกลุ่มผู้ทดลองอยู่
1. การจัด Layout ของเมนูหลัก
ปัจจุบัน
- เมนูเรียบง่ายแถวเดียวตรงๆ
- โหมดต่างๆ ให้เลือกด้านใต้รูปกล้อง LIVE รวมกับโหมดต่างๆ
- Filter อยู่ใน icon ยิ้ม
แบบใหม่
- เมนูแบบโค้งปัดเลื่อนซ้าย – ขวาได้
- โหมดต่างๆ ใช้โลโก้เพื่อสื่อสารแทน
- โชว์ Filter บนหน้าเมนูหลัก
2. การใช้งาน IG Story โหมดต่างๆ
ปัจจุบัน : เลือกโหมดที่ต้องการการจากนั้นจึงเลือก Filter จากปุ่มยิ้ม
แบบใหม่ : เลือกโหมดธรรมดาเลื่อนซ้าย ถ้าอยากได้ Filter ให้เลื่อนขวาแล้วค่อยเลือกโหมดด้านบน
3. เพิ่มโหมด Create เข้ามาในเมนูหลัก
ปัจจุบันเราจะพบ Poll ได้ในสติกเกอร์หลังจากที่ถ่าย Story เรียบร้อยแล้ว แต่แบบใหม่เราจะพบว่า IG ดึงออกมาเป็นโหมด Create ในหน้าเมนูให้ใช้งานได้ง่าย ๆ เลย
ผลการทำ INSTAGRAM A/B Testing บอกอะไรได้บ้าง?
เราจะเห็นผลการทดสอบชัดเจนเลยว่าผู้ใช้งานในปัจจุบัน ให้ความสนใจ Layout แบบไหนมากที่สุด หากแบบใหม่มีการตอบรับที่ดีกว่า Instagram ก็สามารถอัพเป็น IG Story รูปแบบใหม่ให้ผู้ใช้งานทั้งหมดได้ใช้งานเพราะมีการทดสอบแล้วว่าแบบใหม่ดีกว่า แต่หากผลตอบรับไม่เป็นตามที่คาดหวัง ทีมงาน Instagram ก็สามารถเอาผลการทดลอบไปวิเคราะห์แล้วปรับปรุงใหม่ ก่อนจะออกเป็น A/B Testing ในรอบต่อไปนั่นเอง
ที่สำคัญเลยในการทำการทดสอบแต่ละครั้งต้องได้รับ Feedback ของกลุ่มตัวอย่างในจำนวนที่มากพอ จากความเห็นส่วนตัวของคนมีโชคอย่าง Creativetalk ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทำ A/B Testing ของ IG story ในรอบนี้ก็อยากบอกว่าชอบแบบใหม่ที่ IG ดึงลูกเล่นใช้บ่อยออกมาให้ใช้งานง่ายขึ้นมากๆ รวมถึงการปรับดีไซน์ครีเอทีพขึ้นทำให้อยากใช้ IG Story ในการอัพภาพสวย ๆ ระหว่างวันมากขึ้นเยอะเลยค่ะ สำหรับใครเป็นผู้โชคดีได้ลองใช้แบบไหนแล้วรู้สึกว่าชอบแบบไหนก็คอมเมนต์เข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ
ชลิตา ศิริอ่อน
Digital Marketer at
บทความที่เราแนะนำ