ช่วงกลางปีมีโอกาสได้ขึ้นไปภาคเหนือเพื่อพักผ่อน และเจอน้องที่รู้จัก ระหว่างขับรถชมวิวไปเรื่อย ลัดเลาะเข้าซอยตาม Google Map
สายตาก็กวาดไปเห็นป้ายร้านกาแฟร้านหนึ่ง
“ร้านกาแฟคุณหมอ”
ผมเอะใจว่า “ร้านกาแฟคุณหมอ” มีอะไรดี? คุณหมอคนนี้เป็นคนดังในย่านนี้? ถ้าไม่ใช่ ทำไมไม่มี ร้านกาแฟคุณครู ร้านกาแฟดีไซน์เนอร์ ร้านกาแฟ รปภ. ร้านกาแฟแม่บ้าน หรือ ร้านกาแฟภารโรง?
หรือการเป็นคุณหมอจะช่วยเพิ่มเครดิตให้กับร้านกาแฟ?
ก่อนที่จะมาเขียนเรื่องนี้บังเอิญได้อ่านหนังสือที่ตอนหนึ่งว่าด้วยเรื่องของการเหยียด การแยกความแตกต่างของคนด้วยอาชีพ เงิน และรายได้ ไม่ได้จะดึงให้คิดไปถึงนั่น แต่ก็ด้วยความสงสัยก็ทำให้อดคิดไม่ได้ แน่นอนว่า ร้านนี้ต้องเป็นร้านของคุณหมอแน่ ๆ
โดยที่คุณหมอคงไม่ได้คิดจะเหยียดใคร หรือคิดอะไรอกุศลเช่นนั้น
แต่ชื่อร้านนี้ทำให้ผมนึกไปถึงสิ่งหนึ่งที่ธุรกิจมักทำกันคือ “การเพิ่มเครดิตให้กับธุรกิจของตน” แน่นอน ไม่ว่าคุณทำธุรกิจอะไร หากปราศจากความน่าเชื่อถือ ไร้ซึ่งเครดิต ใครเล่าจะกล้าใช้บริการ ตัวอย่างที่เราเห็นชัด ๆ เช่น ร้านขนมปังฮอกไกโด, ขนมนมอัดเม็ดญี่ปุ่น, เส้นอุด้งถุงโอซาก้า
คุณเคยรู้หรือไม่ว่าสินค้าหลายตัวที่มีชื่อประมาณนี้ไม่ได้มีวัตถุดิบที่มาจากญี่ ปุ่นหรือสถานที่ที่ติดมากับชื่อสินค้าเลย แต่หลายตัวนำกรรมวิธีการผลิต หรือนำคอนเซ็ปการพัฒนาสินค้ามาจากแหล่งเหล่านั้น ซึ่งบางครั้งต้นทุนก็อาจจะไม่ได้สูงขึ้นมากเท่าไหร่ แต่ด้วยชื่อ อาจจะเพิ่มราคาได้มากกว่า 2-3 เท่าตัว และหากคุณใส่ภาษาญี่ปุ่นที่คนไทยอย่างเรา ๆ อ่านไปก็ไม่ออกเข้าไปที่ตัวกล่องบรรจุภัณฑ์แล้วด้วยล่ะก็ ราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นได้อีกอย่างแน่นอน
นี่ไม่ใช่การโกง ไม่ใช่การหลอกลวง แต่เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างแบรนด์ดิ้ง สร้างภาพลักษณ์ให้ลูกค้ารู้สึกร่วมกับสินค้านั้น ๆ ส่วนตัวไม่ได้ต่อต้านอะไร แต่กลับเห็นว่าเป็นเทคนิคที่น่าสนใจ
ลองเอาไปปรับใช้ดู ต่อไปเราอาจจะได้เห็นผ้าขาวม้า ทอผ้าสไตล์เกียวโตก็เป็นได้