Jones Salad : เพจร้านสลัดที่ตั้งใจเล่าเรื่องสุขภาพที่มีสาระในแบบไร้สาระ

*บทสัมภาษณ์นี้สัมภาษณ์เมื่อปี 2018 โดยรายการ FounderCast คลิกฟังได้ที่นี่*

ทำไมต้องชื่อ Jones Salad 

จริงๆ มาจาก Jones’s  Salad แบบสลัดของลุงโจนส์ ก็คือต้นกำเนิดมาจาก ..เริ่มต้นของร้านเราเลยมาจากน้ำสลัดสูตรของญาติแฟนผม ที่ชื่อว่าลุงโจนส์ ซึ่งเขามีสูตรน้ำสลัดอยู่แล้ว ผมเลยเอามาทำและต่อยอดกลายมาเป็นชื่อร้านครับ 

ตอนนั้นคิดยังไงครับถึงเริ่มทำเพจให้กับร้าน jones salad

ตอนนั้นน่าจะเป็นวิกฤตของร้านมากกว่า ผมถึงเริ่มทำเพจ เตอนแรกที่เราทำเปิดร้านแรกๆ นะครับ ยอดขายค่อนข้างโอเค เรียกว่าขายดีก็ได้ครับ มีกำไร ต่อมาผมเปิดร้านที่สอง กลายเป็นว่าขายไม่ค่อยดี มันก็ใช้เวลาบิ้วนานมากกว่าคนจะรู้จัก ลองกินแต่ละเมนูของร้านเรา แล้วก็เริ่มขายดี 

ผมก็ไปลงทุนร้านใหม่เป็นร้านที่ 3 ปรากฏว่าก็ขายไม่ค่อยดีอีก ผมเลยกลับมาคิดทบทวนว่าเงินลงทุนเริ่มจมๆไปเรื่อยๆ แล้วก็รู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยเวิร์กล่ะ คือ ต้องหาช่องทางเพิ่มเติมขึ้นมา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ผมตัดสินใจทำเพจขึ้นมา 

เพจมีคนกดไลก์แปดแสนกว่าไลก์ ภายในระยะเวลาแค่ปีกว่าๆ 

ถ้านับจากวันแรกที่เปิด ก็ประมาณปีกว่าๆ ครับ (ปัจจุบันมีคนกดไลก์เพจ Jones Salad ไลก์) 

แรกเริ่มที่ทำเพจเป็นอย่างไงบ้าง

ผมคิดว่า คอนเทนต์ที่ทำให้เพจโตอย่างรวดเร็วในเวลาปีกว่านี้ คือ คอนเทนต์ที่ไม่เกี่ยวกับการขายของครับ แต่ช่วงแรกๆ เราก็ลงคอนเทนต์เชิงขายของ แน่นอนอยู่แล้วว่ามันดีต่อร้าน ลงไปปุ๊บก็จะทำให้เพิ่มยอดขายได้ครับ ซึ่งข้อเสียของการลงคอนเทนต์แบบนี้อย่างเดียว คือ หยุดโปรโมทเมื่อไหร่ยอดก็จะไม่มา แล้วที่สำคัญคือโปรโมทไปเรื่อยๆ โดยการขายของอย่างเดียวลูกค้าก็จะเบื่อ บางทีก็จะไม่มี value ของแบรนด์หรืออะไร ที่ทำให้คนรักแบรนด์เรา หรือติดตามแบรนด์เราไปเรื่อยๆ

เหมือนอย่างเราเจอเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ว่าเจอทีไรขายของเราทุกทีใช่ไหม

ใช่ครับ ผมเลยเริ่มทำ value คอนเทนต์แบบที่ให้ความรู้อะไรเพิ่มขึ้น ซึ่งตรงนี้กลายเป็นจุดพลิกของเพจเลย จากตอนนั้นที่เริ่มทำให้ความรู้ เพจมียอดสักหมื่นกว่าไลก์เองมั้งครับ ผ่านไปสักระยะหนึ่งก็ขึ้นมา โห เป็นแสนไลก์

ผมสังเกตว่า jones salad จะมีตัวการ์ตูนที่เรียกว่าเป็นมาสคอตของร้านเองก็ได้ มาสคอตนี้มีผลทำให้เพจเราประสบความสำเร็จไหม

มีผลนะครับ คอนเซปต์ของเพจคือ เป็นเพจเกี่ยวกับสุขภาพและสาระที่เรานำเสนอแบบไร้สาระ เพราะเราเชื่อว่า คนที่เขามีพฤติกรรมชอบอะไรที่เป็นสาระมากๆ เขาก็ไปอ่านบทความแบบนั้นโดยตรงเลย แต่คนทั่วไป ผมว่าบางที เขาก็ชอบเสพอะไรที่เป็นเรื่องตลก เรื่องสนุก ที่บางทีมันไม่ต้องมีสาระอัดเต็มแน่นขนาดนั้นก็ได้ครับ เราก็จะเข้าใจอารมณ์คนอ่านคอนเทนต์เพจเราว่าเป็นประมาณนี้ โดยส่วนตัวผมก็ไม่ได้เป็นหนอนหนังสือ ชอบเสพอะไรเป็นรูป คอนเทนต์ที่ตลกๆ สนุกๆ มากกว่า ก็เลยเอาสิ่งเหล่านั้นประยุกต์เข้ากับอะไรที่เป็นสาระมานำเสนอเป็นคอนเทนต์ของเพจ jones salad ครับ

มีวิธีการคิดคอนเทนต์ของคุณกล้องยังไง 

สมมุติว่า ผมตั้งเป้าหมายท็อปปิคในช่วงนั้นไว้ว่า จะทำคอนเทนต์เรื่องการขับถ่าย ตลอดทั้งอาทิตย์เราก็จะอ่านแต่เรื่องขับถ่าย ซึ่งจริงๆ แล้วสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผมไม่ค่อยเข้าเรียนชอบอ่านมาหนังสือสอบสามวันสุดท้าย   โดยวันแรกผมจะอ่านเนื้อหาเองหมด วันที่สองเขียนมายแมพ และวันที่สามจะมาติวเพื่อน ผมเลยได้สกิลการรับข้อมูลเยอะๆ ในเวลาอันสั้น แล้วมาเขียน พอมาทำเพจก็กำหนดว่า เฮ้ย วันนี้ต้องลงคอนเทนต์ที่วางไว้ให้ได้เรียกว่าเป็นการตั้งเดคไลน์ให้ตัวเองเลย แล้วตอนบ่ายผมจะแตะคอม ทำคอนเทนต์ออกมาเลยทันที 

ในด้านการทำธุรกิจ ทำไมเราถึงมาโฟกัสกับการทำสลัด นอกจากการที่เรามีสูตรของลุงโจนส์แล้วเรามองเห็นเทรนด์ของการรักษาสุขภาพของคน ในยุคนี้หรือเปล่า

ผมเชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่า เทรนด์สุขภาพมันไม่ได้กำลังมา ตอนนี้มาอย่างทุกคนเห็นได้ชัด และเทรนด์นี้ต่อไปผมคิดว่าจะเป็นสุขภาพที่บวกกับนวัตกรรมบางอย่างเพื่อให้คนกินง่ายขึ้น  ยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันก็คือ ช่วงปีๆ ก่อนเทรนด์อาหารสุขภาพที่ฮิตมากก็คืออาหารคลีน ที่ปรับพฤติกรรมของคนให้ทานอาหารรักสุขภาพง่ายขึ้น

ทีนี้เทรนด์อาหารสุขภาพหรือการกินสลัดเพิ่มมากขึ้นในกรุงเทพ ทาง jones salad มีวิธีการแข่งขันกับเจ้าอื่นในตลาดยังไงบ้าง 

แต่ละเจ้ามีจุดขายที่แตกต่างกัน เราต้องแบบหาจุดขายของเราให้เจอ ว่าเราเป็นสลัดแบบไหน อย่าง Jone Salad ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นสลัดสำหรับขายคนไทย ทั้งรสชาติน้ำสลัด โดยเฉพาะกลุ่มออฟฟิศ บางทีคู่แข่งเขาก็มีจังหวะมาของเขาอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ต้องแบ่งสัดส่วนตลาดกัน แต่สิ่งสำคัญคือเราเกาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นของเราไว้ให้ดีที่สุดครับ

สำหรับคุณกล้องแล้ว อะไรคือหัวใจหรือสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไรก็ตาม  

ความกล้าที่จะเริ่มต้นทำอะไร การลองทำสิ่งต่างๆ เพราะประสบการณ์เป็นตัวสอนเราได้ดีที่สุด ส่วนตัวผมคิดว่าธุรกิจคือ การต่อจุดไปเรื่อยๆ ถ้าเราไม่เริ่มจุดแรกสักที เราก็ไม่มีวันรู้จะต่อยังไง ธุรกิจจะย้ำอยู่จุดเดิมเรื่อยๆหรือว่าโอเคเรากล้าที่จะลองทำอะไร มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี  ไม่ต้องจำเป็นว่าเราต้องไปไปลงทุนอะไรเยอะแยะ

เพียงแค่ได้ลองไปสัมผัส ได้เริ่มต้นทำอะไรเล็กน้อยๆ ตามกำลังที่เรามี มันก็เป็นก้าวที่ดีสำหรับชีวิตเราแล้ว 

เรื่อง : สัมภาษณ์โดย FounderCast EP และเรียบเรียงโดย พลอยแพรว พัฒนเลิศพันธ์
ภาพ : Jones Salad Page Facebook