Trending News

Subscribe Now

End of the walk way : ห้องสมุดในแบบที่สมควรจะเป็น

End of the walk way : ห้องสมุดในแบบที่สมควรจะเป็น

Article | End of The Walk Way

รู้ไหมว่าห้องสมุดในประเทศไทยมีทั้งหมดกี่แห่ง?

10, 20, 30?

เราอาจจะรู้สึกว่าห้องสมุดในไทยนั้นหาได้น้อยเหลือเกิน อยากนั่งอ่านหนังสือสิ่งแรกที่เรานึกถึงคือร้านกาแฟ อยากหาข้อมูลเพิ่มเติม เรานึกถึง Google ห้องสมุดไม่ใช่สิ่งแรกที่คนไทยนึกถึง

เป็นเพราะห้องสมุดมีน้อย? หรือหาไม่มี?

ข้อมูลจาก Online Computer Library Center (OCLC) บอกว่าประเทศไทยเรามีห้องสมุดรวมมากถึง 34,751 ห้องสมุด!!

ตัวเลขนี้รวมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดแห่งชาติ หรือแม้แต่ห้องสมุดมหาวิทยาลัย

ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับประเทศอื่นแล้ว ห้องสมุดในไทยไม่ได้น้อยหน้าห้องสมุดประเทศชั้นนำอย่าง ญี่ปุ่นที่มี 45,823 ห้อง และแซงหน้าประเทศที่เจริญมาก ๆ อย่างสิงคโปร์ที่มีเพียงแค่ 429 ห้องสมุดเท่านั้น!

มาถึงตรงนี้ผมเชื่อว่าหลายคนเริ่มจะคิดแล้วว่า “จำนวนห้องสมุดอาจจะไม่ได้มีผลอะไร” หรือ “จำนวนห้องสมุดก็ต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่ของแต่ละประเทศด้วย”

แน่นอนว่า สิงคโปร์ที่มีขนาดเล็กกว่ากรุงเทพฯ จะให้มีห้องสมุดจำนวนมากเท่าประเทศไทยทั้งประเทศคงไม่ไหว

และแน่นอนว่า “ปริมาณ” ที่มากกว่า ไม่ได้หมายถึง “คุณภาพ” ที่มากเท่า

แล้วห้องสมุดที่มี “คุณภาพ” ควรเป็นอย่างไร?

มีหนังสือจำนวนมาก? มีที่นั่งพร้อม? มีความเงียบสงบ?

ทั้งหมดที่ว่ามาอาจจะ “ถูก” และ “ผิด” ได้ทั้งคู่

มาลองดูห้องสมุดในอเมริกาที่ผมเคยสัมผัสดูกันครับ..

ผมมีโอกาสได้ไปเรียนในมหาวิทยาลัยที่อเมริกา และมีโอกาสได้ใช้ห้องสมุดทั้งในมหาวิทยาลัยและ ห้องสมุดประชาชน ที่ให้บริการกับใครก็ได้ในชุมชน

ห้องสมุดมหาวิทยาลัยนั้นไม่ต่างอะไรกับห้องสมุดของไทยเท่าไหร่ ความหมายคือ ห้องสมุดนั้นเต็มไปด้วยหนังสือ เน้นไปที่หนังสือที่เกี่ยวข้องกับวิชาในมหาวิทยาลัย มีโซนคอมพิวเตอร์ มีหนังสือพิมพ์เก่าให้ค้นหา และมีความเงียบ พร้อมกับโต๊ะเก้าอี้ที่เพรียบพร้อม

แต่ห้องสมุดประชาชนนี่กลับแตกต่าง

แน่นอนว่า หนังสือต้องมีจำนวนมาก และหลากหลายกว่าของมหาวิทยาลัย มีหนังสือสำหรับเด็ก หนังสือนิทาน หนังสือธุรกิจ หนังสือคอมพิวเตอร์ ยาวจนไปถึงหนังสือเบื้องหลังการทำภาพยนตร์ นิยาย ดนตรี ฯลฯ

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ประทับใจ

แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมาก ๆ คือห้องสมุดที่นี่สามารถ “ยืมหนังสือได้”

ไม่ว่าจะเป็นเล่มไหน แมกกาซีนเก่าใหม่ สามารถยืมกลับบ้านได้ และยืมได้นานหลายสัปดาห์ และยืมได้ทีละหลาย ๆ เล่ม!

เอาไปอ่านกันยาว ๆ นอนบนกองหนังสือกันไปเลย

ซึ่งคำว่า “นอนบนกองหนังสือ” ไม่ใช่คำเปรียบเปรยนะครับ แต่เด็ก ๆ ในครอบครัวที่ผมไปอยู่ด้วยทำกันมาแล้ว

หนังสือที่นั่นคุณสามารถยืมได้ และ “คืนเมื่อไหร่ก็ได้”

คำว่าคืนเมื่อไหร่ก็ได้คือ ที่ด้านนอกของห้องสมุดจะมี “ตู้รับหนังสือ” คือคุณสามารถแวะมาทิ้งหนังสือไว้ในตู้เหล็กขนาดยักษ์นี้เมื่อไหร่ก็ได้ เที่ยงคืนก็ได้ ตีสามก็ไม่มีปัญหา

อีกสิ่งที่ประทับใจสำหรับห้องสมุดในอเมริกาคือ “กิจกรรม”

ทุกวันเสาร์ และ อาทิตย์ ที่ห้องสมุดจะมีจัดกิจกรรมมากมาย

เช่น กิจกรรมอ่านหนังสือนิทานให้เด็กฟัง ดังนั้นเด็ก ๆ บ้านไหนสนใจ เสาร์นี้ก็มาเจอกัน

หรือกิจกรรมพูดคุยเสวนาเกี่ยวกับหนัง Starwars เรื่องใหม่ที่กำลังจะเข้า

ผมว่ามันทำให้คนในพื้นที่ได้มาพบปะกัน นอกจากจะได้มาพูดคุย ลับสมอง แล้ว วันเสาร์อาทิตย์พวกเขาไม่จำเป็นต้อง “เดินห้างฯ” เพียงอย่างเดียว

ไม่ต้องเดินห้างฯ เข้าห้องสมุดก็เจอแอร์เย็น ก็มีอะไรทำเหมือนกัน

กลับมาดูห้องสมุดที่ไทยบ้าง

ห้องสมุดไทยดีดีก็มีหลายที่นะครับ แต่ที่ผมประทับใจที่สุดเห็นจะมีอยู่ 3 ที่

ที่แรกคือ TK Park ชั้น 7 อาคาร Central World

ที่นี่เป็นห้องสมุดเหมือนอย่างที่ผมได้พูดถึงในต่างประเทศ คือ มีกิจกรรมที่น่าสนใจทุกสัปดาห์ มีหนังสือมากมายตั้งแต่วิชาการ ความรู้ แมกกาซีน จนถึงการ์ตูนโดเรมอน

ที่นี่ค่าเข้าราคาถูกมาก แค่ 20บาท

และที่นี่ ยืม-คืน หนังสือได้ .. แต่ไม่มีระบบคืน 24 ชม. เท่านั้นเอง

และที่นี่มีระบบอ่านหนังสือออนไลน์ได้ด้วย

ห้องสมุดที่สอง คือ TCDC บางรัก

ที่นี่เป็นห้องสมุดใหญ่ เน้นหนังสือเกี่ยวกับศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ สถานที่เงียบ และมีกิจกรรมดี ๆ มากมายในระดับอินเตอร์ฯ

และห้องสมุดสุดท้ายที่ชอบคือ ห้องสมุดมารวย อาคารตลาดหลักทรัพย์ ถนนรัชดา

ที่นี่ดีจริง ๆ ห้องเงียบ หนังสืออัพเดท ที่จอดรถมี และใช้บริการฟรี มีระบบให้อ่านหนังสือออนไลน์ด้วย

เอาเข้าจริง ๆ สามที่นี้ ผมคิดว่ามีความดีแตกต่างกัน แต่สิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์คือ ที่ TK Park นั้นดีมาก แต่พื้นที่เล็ก จำนวนคนมากกว่าพื้นที่ ทำให้หลายครั้งที่ไปรู้สึกแออัด

ที่ TCDC ดี แต่ไกลไปหน่อย ส่วนที่ห้องสมุดมารวย นี่ดีมาก แต่คนไม่ค่อยรู้จัก

ส่วนตัวคิดว่าถ้าเมืองไทยเอา TK Park เป็น Model เริ่มต้น แล้วขยายออกไปให้ได้ไกล ๆ น่าจะดีกับประชาชนในทุกพื้นที่

จะเริ่มจากในกรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่ ผมก็ว่าน่าสนใจ

เพราะนี่ล่ะ คือห้องสมุดในแบบที่ควรจะเป็น

Related Articles

Digital Marketing ไม่ใช่ยาวิเศษ ที่จะรักษาโรคขายไม่ดีได้ทุกชนิด!

หลายครั้งมีการเข้าใจผิดของเจ้าของกิจการและนักการตลาดครับว่า ถ้าสินค้าเริ่มขายไม่ได้หรือธุรกิจมีปัญหา การทำ Digital Marketing จะช่วยรักษาให้ธุรกิจดีขึ้นได้ โดยการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ หรือแม้แต่ให้ลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้ออีก ซึ่งความเชื่อนี้ใช้ได้กับบางธุรกิจเท่านั้นครับและไม่เสมอไปด้วย…

Article | Digital marketing

เปลี่ยนการโปรโมทแบรนด์รูปแบบเดิม ๆ ด้วยการลงมือทำ 

สำหรับแคมเปญ “Paving for Pizza” จาก Domino’s pizza ของอเมริกา ที่อาสาซ่อมหลุมตามท้องถนนให้ โดยการให้ลูกค้าเป็นผู้แจ้งปัญหาผ่านเว็บแคมเปญ เพราะทางแบรนด์เข้าใจดีว่าการไปส่งพิซซ่าในสภาพถนนเป็นหลุมเป็นบ่อนั้นจะทำให้หน้าพิซซ่าเละ ซึ่งตอนนี้แบรนด์ได้ซ่อมถนนไปกว่า…

Article | Digital marketing

อนุพงษ์ อัศวโภคิน “อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องเรียนรู้ที่จะเป็น Entrepreneur ในองค์กร”

“ถ้าคุณไม่สามารถเป็น Entrepreneur ในองค์กรได้ คุณไม่มีทางที่จะออกมาเป็นเจ้าของธุรกิจเองได้เลย” แนวคิดแห่งความสำเร็จของ คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี…

Article | Entrepreneur
mi, Donec commodo leo. felis ut odio