ไม่อ่านหนังสือ ก็ฉลาดได้!

ไม่อ่านหนังสือแล้วจะฉลาดได้อย่างไร? จริงแล้วเรามีวิธีหาความรู้เพื่อพัฒนาตัวเองได้จากหลายช่องทาง ไม่ใช่แค่เพียงการอ่านหนังสือ วันนี้จะมาคุยกันว่าจะมีเทคนิคไหนบ้างที่จะสามารถอัปเกรดตัวเองให้ฉลาดได้ โดยไม่ต้องอ่านหนังสือ! และเรามีแบ่งให้ด้วยระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์ มาดูกันเลย

1. Podcast

ฟังพอดคาสต์ เรื่องนี้คงไม่ต้องแนะนำกันแล้ว การฟังพอดคาสต์จะช่วยให้คุณพัฒนาตนเองได้ อาจจะเป็นรายการตลกขำขัน เฮฮา ก็ได้ เพราะทุกอย่างที่เป็น Input เข้าสู่สมองเรา เชื่อว่าจะมีบางอย่างที่เข้าไปแล้วทำให้เราเก่งขึ้น เราสามารถเลือกเนื้อหาบางอย่างขึ้นมาได้

ผมเคยไปงานบางเรื่องไม่ได้เกี่ยวกับผมเลย ผมจับได้หนึ่งประโยค และประโยคนั้นเปลี่ยนชีวิตก็มีเหมือนกัน เช่น ผมไปฟังงานเปิดตัว Digital Economy เขาเชิญ สตีฟ แบงค์ มาพูด เป็นคนที่เขาเชิญมาจากอเมริกาเป็นนักเขียนหนังสือ แล้วเขาก็พูดเยอะแยะไปหมด ฟังขำขันเฮฮาไปเรื่อย ปรากฎว่ามีประโยคหนึ่งที่เขาพูดแล้วผมชอบก็คือว่า สิ่งหนึ่งที่ ศิลปิน (Artist) กับ เจ้าของกิจการ (Entrepreneur) มีเหมือนกันคือ พวกเขามองเห็นในสิ่งทีคนธรรมดามองไม่เห็น

เพียงแค่ประโยคธรรมดา กลับทำให้ผมรู้สึกว่า มันเปลี่ยนความคิดของผมไปเลย ดังนั้นการที่คุณฟังพอดคาสต์ ฟังอะไรก็ได้ จะมีสาระเยอะหรือน้อย แม้บสมองของเราไม่สามารถที่จะจำได้หมด แต่อาจเป็นเนื้อหาหรือบางสิ่งแค่นิดเดียวที่มาเติมเต็มสมองกับบางเรื่องที่เราไม่รู้มาก่อนก็ได้

2. เลิก Follow เรื่องดราม่า

ไม่ว่าจะเป็นทาง Twitter, IG หรือ Facebook ถ้าคุณ Follow คนที่ดราม่าเยอะ ๆ หรือเพจอะไรที่มันไม่เกี่ยวข้องกับคุณ แล้วลองเปลี่ยนไปติดตามอะไรก็ได้ที่มีความรู้ มีสาระ เพราะถึงแม้ว่าเรื่องดราม่ามันสนุกก็จริง แต่ก็เอาเวลาไปจากเราเยอะมากเช่นกัน คุณควรเอาเวลานั้นไปหาความรู้น่าจะดีกว่า

3. เลือก YouTube รายการที่ดี ๆ

ใน YouTube มีรายการให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่เรื่องสนุก ๆ ไปจนถึง เรื่องวิทยาศาสตร์ หรือว่า TED TALKS คุณเลือกได้หมดเลย ถ้าคุณเลือกแต่เรื่องเอนเตอร์เทนอย่างเดียว บางครั้งมันก็อาจจะเป็นต้นเหตุให้คุณไม่ได้มีพัฒนาการทางความรู้ ลองดูอะไรที่มีสาระมีความรู้ขึ้นอีกนิด อาจจะทำให้คุณรู้สึกว่ามันดีขึ้นก็ได้  

4. Online Learning

การเรียนรู้สกิลต่าง ๆ อ่านออนไลน์ การ Subscribe พวก Online Learning, Skill Share  เช่น เรืยนเรื่องถ่ายภาพ การทำอาหาร ดีไซน์ เป็นต้น

5. Take Course

ลองไปเรียนคอร์สอย่างจริงจัง  มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ราคามีให้เลือกตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ถ้าทำได้ก็จะทำให้คุณอัพสกิลได้โดยไม่ต้องอ่านหนังสือ  

เอาล่ะ หันมาดูทางฝั่งออฟไลน์กันว่ามีอะไรบ้าง

1. ไปเจอเพื่อน

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนใหม่ เพื่อนเก่า ออกไปเจอสังคมแทนที่จะอยู่แต่กับคนเดิม ๆ  และขอให้มั่นใจว่าเพื่อนคุณเป็นเพื่อนที่เก่งกว่าคุณ มีความรู้บางด้านที่เก่งกว่าคุณ อาจจะไม่ได้เก่งขนาดเป็นนักคณิตศาสตร์โอลิมปิก แต่เขาเป็นเพื่อนที่มีบางมุมที่เก่งกว่า เช่น คุณอาจจะเก่งเรื่องการทำธุรกิจ แต่เพื่อนอาจจะเก่งเรื่องกีฬา ไปคุยกับเขาเผื่อมีอะไรที่อัปเกรดตัวเองได้บ้าง ส่วนใหญ่งานใหม่ ๆ หรือไอเดียใหม่ ๆ ที่ได้มา มักจะได้มาจาก Network ของเพื่อนทั้งนั้น ไม่ได้ได้มาจากการอ่านหนังสือ 

2. Challenge

ถ้าคุณทำอะไรแล้วทำด้วยความชำนาญ คุณเก่งมากในเรื่องนั้นแล้ว จนสามารถหลับตาทำได้เลย แปลว่าคุณยังอยู่ที่เดิม ถ้าหากว่าต้องคุณทำงานอะไรแล้วคุณปวดหัว มีปัญหาเยอะจัง ยากจัง นั่นแปลว่าคุณกำลังจะเก่งขึ้น

ดังนั้น ถ้าคุณทำอะไรทุกอย่างที่มันชิล ๆ เหมือนเดิม คุณควรเริ่มที่จะท้าทายตัวเอง หาความท้าทายให้ตัวเอง ทำอะไรก็ได้ที่คุณไม่เคยทำมาก่อน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นงานเดิม ไม่ว่าจะเป็น งานดีไซน์ งานเขียนคอนเทนต์ งานด้านการตลาด แต่ลองเปลี่ยน ลองอัปเกรดตัวเอง หาสื่อใหม่ ๆ หาวิธีการทำใหม่ ๆ เทคนิคใหม่ ๆ มาลองชาเลนท์ตัวเองแล้วมันจะทำให้คุณเก่งขึ้น

3. ไปพูดให้คนอื่นฟัง

ให้ลองอธิบายเรื่องบางเรื่องที่คุณได้ฟัง ได้อ่านมา ให้เพื่อนฟัง เขาบอกว่ามนุษย์เราเวลาอ่านจะจำได้แค่ 20% เท่านั้น แต่ถ้าได้พูด ได้สอนจะช่วยให้จำเนื้อหาส่วนนั้นได้มากถึง 90%  เพราะเมื่อคุณจะต้องไปเล่าให้เพื่อนฟังได้อย่างเต็มๆ และไม่เกิดคำถามมาก คุณจะต้องกลับไปทบทวนมันให้เป๊ะ แล้วก็กลับมาเล่าให้เพื่อนฟังได้

ดังนั้น การเล่าเรื่องให้คนอื่นฟัง จะช่วยอัปเกรดตัวคุณเอง ช่วยทบทวนสิ่งที่คุณได้เรียนรู้มาได้เป็นอย่างดี จะทำให้คุณจำได้ถึง 80-90% เลย 

4. การเขียน

การเขียนลงบล็อกส่วนตัว เช่น เว็บไซต์ Medium การเขียนบางครั้งอาจจะง่ายกว่าการไปพูดอีกด้วย คุณสามารถที่จะทบทวนตัวเอง และหากคุณสามารถที่จะเขียนได้ ก็แสดงว่าคุณจำสิ่งนั้นได้ด้วย

5. เข้าร่วมงาน Event ต่าง ๆ 

การไปนั่งฟัง ไปเสพความรู้ แทนที่จะไปดูหนังอย่างเดียว ไปเดินห้างให้เสียเงินเล่น ลองหาเวลาไปหาความรู้ อีเวนต์ฟรีก็มีเยอะ และที่เสียเงินก็มีมากเช่นกัน และเขาจะคัดคุณภาพมาเพื่อให้ดีคุ้มกับราคาที่เราเสียไปอีกด้วย  

หวังว่าเทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้ใครหลายคนสามารถเติมพลังและความรู้ตัวเองได้ ถึงแม้จะไม่ใช่การอ่านอย่างเดียว เพราะความรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่หนังสือ แต่อยู่รอบ ๆ ตัวเรานี่เอง

ภาพจาก Jamie Street 

ถอดความจาก: Morning Call Podcast โดยคุณเก่ง สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม