รู้จัก GDN ให้มากขึ้นใน 5 นาที

การทำการตลาดออนไลน์มีหลายช่องทางให้เลือก เจ้าของธุรกิจบางคนถนัดทำการตลาดผ่าน Facebook บางคนถนัดผ่าน Google Search ตามแต่ว่าช่องทางใดมีประสิทธิภาพสูงกว่า วันนี้ตามีอีกหนึ่งทางเลือกที่ทรงประสิทธิภาพไม่แพ้กัน มักใช้ในแบรนด์ที่มีงบในการทำการตลาดออนไลน์มากในระดับหนึ่ง นั่นคือ Google Display Network หรือที่คนในวงการเรียกกันว่า GDN 

GDN เป็นหนึ่งใน products ของ Google โดยการเปิดให้แบรนด์นำ Banner ไปโฆษณาบนเครือข่ายพันธมิตรของ Google นับล้านเว็บไซต์บนโลก

GDN สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ในขณะที่พวกเขาเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ตรงกับความสนใจในขณะนั้น เช่น Banner โฆษณารถยนต์รุ่นใหม่ในเว็บไซต์คนรักรถ หรือ Banner เครื่องสำอางใน Youtube channel ที่เกี่ยวกับรีวิวแต่งหน้า เป็นต้น

GDN ทำงานยังไงบ้าง?

GDN ช่วยนำส่งโฆษณาถึงกลุ่มเป้าหมายตามที่เราตั้งค่าไว้ ส่วนใหญ่เน้นในเรื่องของ Brand  Awareness เป็นส่วนใหญ่ เพื่อตอกย้ำถึงแบรนด์ ให้ผู้คนจดจำสินค้า และทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในระยะเวลาที่รวดเร็ว โดยที่ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกการนำส่งโฆษณาได้ตามลักษณะที่ต้องการดังนี้

• ประเภทของเว็บไซต์  เช่น เว็บไซต์รีวิวเครื่องสำอาง, แฟชั่น , หนังสือพิมพ์ออนไลน์ , ท่องเที่ยว เป็นต้น
• อายุ เพศ ที่ต้องการให้เห็น Banner
• Location ของกลุ่มเป้าหมาย เช่น ร้านอาหารย่านบางรัก ก็ตั้งให้นำส่งโฆษณาถึงคนละแวกใกล้เคียง 
• วันและเวลาของการนำส่งโฆษณา เช่น เปิดให้โฆษณาทำงานทุกวันเวลา 6.00-23.00 น.
• ความถี่ของโฆษณา เช่น ให้กลุ่มเป้าหมายเห็น Banner ของเราวันละ 1 ครั้ง เพื่อไม่ทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรำคาญมากจนเกินไป

ข้อดีของการทำ GDN

• โฆษณาเป็นแบบรูปภาพ ทำให้สร้างการจดจำได้ง่าย
• เข้าถึงคนหลักล้านได้ในงบหลักพัน
• เป็นโฆษณาที่ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน แค่ทำภาพขนาดตรงกับที่ทาง Google ต้องการก็ทำได้แล้ว
• เหมาะสำหรับการทำ Re-Marketing ให้ลูกค้าเห็นเราซ้ำ ๆ จากหลาย ๆ เว็บไซต์ที่พวกเขาเข้าชมประจำ ซึ่งเป็นหนึ่งในจิตวิทยาที่ทำให้แบรนด์นั้นดูน่าเชื่อถือมากขึ้น

ข้อจำกัดของการทำ GDN

• GDN รองรับ Banner หลาย placement ทำให้เพิ่มโหลดงานของทีมกราฟิกมากขึ้น 
• เนื่องจาก GDN เน้นในแง่ของการนำส่งให้คนหมู่มาก และเน้นในเรื่องของ Brand Awareness ทำให้บางครั้งเราก็ไม่สามารถวัดผลในเชิงยอดขายได้ บางทีคนเห็น Banner ซ้ำๆ แต่ไปซื้อสินค้าผ่านทาง Facebook เราก็ไม่สามารถที่จะวัดผลได้ และอาจมองว่าแคมเปญนั้นไม่มีประสิทธิภาพ

ขนาดของ GDN ที่แนะนำ

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า GDN ไม่จำเป็นต้องทำทุกขนาดก็ได้ ถ้าเน้นให้ครอบคลุม Placement ที่ใช้ประจำ จะมี 4 ขนาดยอดฮิตแนะนำค่ะ

• 160*600
• 300*250
• 468*60
• 728*90

เมื่อไหร่ถึงควรเลือกใช้ GDN

มีหลายคนที่ยังไม่เคยได้ลองใช้ GDN หลายคนที่ทำอยู่แล้วและได้ผลก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ส่วนใครที่อยากลองลงโฆษณาผ่าน GDN ดูบ้าง ตาเองมองว่า GDN สามารถช่วยธุรกิจได้ทั้งการหาลูกค้าใหม่ให้กับธุรกิจ และใช้ในเชิง Re-marketing ให้กลุ่มเป้าหมายจำได้จนกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการ แต่รูปภาพที่สื่อออกไปและการตั้งค่าการนำส่งอาจจะไม่เหมือนกัน เช่นหาลูกค้าใหม่ ๆ ด้วยภาพสินค้าที่น่าสนใจ แล้วค่อย Re-marketing ด้วยรูปภาพที่มีคำไว้ปิดการขายโดยเฉพาะเพื่อให้เกิดเป็นรายได้ของธุรกิจค่ะ

ภาพจาก support.google.com

บทความโดย: คุณชลิตา ศิริอ่อน
Digital Marketer at Opendurian และ Content Director at Taketing

บทความที่เราแนะนำ

• วิธีส่องโฆษณาของเพจคู่แข่งด้วย Ad Library
• มารู้จัก A/B Testing ด้วยการแอบดู IG Story
• Ask Google for Answer เสิร์ชอย่างไรให้ได้คำตอบตรงคำถาม?