Trending News

Subscribe Now

อนาคตวงการ Creative ต้องปรับตัว สรุปจากงาน CTC2020

อนาคตวงการ Creative ต้องปรับตัว สรุปจากงาน CTC2020

Article | Creative/Design

อาจไม่ใช่แค่แวดวงเทคโนโลยีหรือธุรกิจเท่านั้นที่ต้องปรับตัว ใครจะคิดว่าคนทำงานด้านครีเอทีฟยังต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันโลกเช่นกัน ทั้งที่ช่วงหนึ่งยังเคยพูดกันหนักหนาว่าเป็นอาชีพอันดับท้าย ๆ ที่จะโดนดิสรัปต์จากเทคโนโลยี วันนี้มันอาจไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะความคาดหวังของผู้บริโภคสูงขึ้น ครีเอทีฟจึงต้องติดอาวุธทั้งศาสตร์และศิลป์ไว้กับตัว

ในปี 2020 นี้ อนาคตวงการ Creative จะเปลี่ยนไปอย่างไร สรุปจากงาน Creative Talk Conference 2020 จาก 2 Speaker ทางฝั่งครีเอทีฟ คุณชาย สหรัฐ สวัสดิ์อธิคม Managing Director จาก CJ WORX และ คุณหนึ่ง อัศวิน พานิชวัฒนา Executive Creative Director จาก GREYnJ ในหัวข้อ Conversations of The New Decade

อนาคตวงการ creative

ปี 2019 ที่ผ่านมา มีอะไรบ้างที่ได้เรียนรู้?

คนทำงานด้วยกันเยอะขึ้น เริ่มมีการวิเคราะห์ในการทำงานต่าง ๆ กันมากขึ้น ทุกคนเริ่มปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี อาจจะไม่ได้เก่งทุกอย่าง แต่ก็มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องแตกต่างกันไป – คุณหนึ่ง อัศวิน กล่าว

ในด้านของ คุณชาย สหรัฐ ได้กล่าวว่า หลังจากที่ตนเองได้ไปพบเจอกับงานคอนเฟอเรนซ์ทั้งในไทยและต่างประเทศ สิ่งที่มักพูดกันค่อนข้างเยอะคือ เรื่องของ Impact of Data ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเพิ่งเริ่มเข้าสู่ยุคเดต้าอย่างจริงจัง ครีเอทีฟสมัยใหม่ต้องเริ่มคิดแล้วว่าจะนำเดต้าเข้ามาใช้อย่างไร เพราะการใช้เดต้าจะทำให้งานครีเอทีฟเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 

นอกจากนั้นยังมีเรื่อง Automation และ AI จากเดิมที่เราแชตกับบอต จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปสู่การแชตกับ AI แทน ซึ่งมันจะเปลี่ยนโฉมวงการโฆษณาไปอย่างมาก

อนาคตวงการ creative

วงการ Creative ในปี 2020 จะมีอะไรต่อยอดจากสิ่งที่ได้เห็นในปีที่แล้วบ้าง?

1. Demanding มาแน่ และรุนแรงกว่าเดิม

คุณหนึ่ง อัศวิน บอกว่า ในปี 2020 สิ่งที่เราจะได้เห็นแน่ ๆ คือ เรื่องของ Demanding คนจะมีความต้องการรุนแรงขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ ทุกคนเรื่มต้องการสิ่งนั้น สิ่งนี้มากขึ้น สินค้าหรือบริการจะอัปเกรดให้ทันความต้องการของผู้บริโภค เช่น ถ้าปีหน้า 5G มา เอาล่ะ ฉันต้องซื้อโทรศัพท์ใหม่หรือเปล่า? 

2. Creative Execution สู่การเป็น Creative Solution

คุณชาย สหรัฐ กล่าวว่า จากเดิมที่เราใช้ความครีเอทีฟมาสร้างไอเดียเพื่อการนำเสนอแนวคิด บอกเล่าปัญหาของผู้ใช้ เพื่อความสวยงาม ซึ่งไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว ต้องปรับตัวให้กลายเป็น Creative Solution ที่สามารถแก้ปัญหาทางการตลาดให้ลูกค้าได้ ทำอย่างไรถึงขายให้ได้มากกว่า แก้ปัญหาที่จุดขาย เปลี่ยนวิธีการขาย นำเสนอมุมมองอื่น ๆ ที่ยังเคยทำมาก่อน คือการนำครีเอทีฟมาช่วยให้งานขายได้จริง ๆ

3. การผลิตงานโฆษณาต้องคิดให้เยอะขึ้น!

ปัจจุบันเราซื้อสินค้าได้ทุกอย่าง ทุกที่ในโลก โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงร้าน สิ่งนี้เป็นตัวเปลี่ยน เพราะฉะนั้นโฆษณาต้องคิดเยอะ ๆ ดูดี ๆ ว่าจะสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างไร

4. Improve Life, Impact Social, Increase Return 

การทำโฆษณาสวย ๆ นั้น ไม่พออีกต่อไป โฆษณาต้องเป็นสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตคนดูดีขึ้น สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากและเข้าใจได้ตรงกัน ที่สำคัญต้องทำให้เกิดผลตอบแทนหรือ ROI ได้ ไม่ใช่แค่ดูแล้วเกิดความสนใจเท่านั้น

5. มากกว่าดู Ads ต้องดูเรื่อง Experience ด้วย

การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโฆษณาหรือการที่เขาเข้ามาช้อปปิ้งบนออนไลน์ เพื่อให้โฆษณาเข้าถึงผู้บริโภคได้จริงจังขึ้น ครีเอทีฟจึงต้องเข้ามาดูเรื่องประสบการณ์ของคนใช้ด้วย ไม่ใช่แค่ Ads เพียงอย่างเดียว

6. ครีเอทีฟต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์เป็นอาวุธ 

เมื่อทุกแพลตฟอร์มเริ่มมีเรื่องออนไลน์เข้ามาเกี่ยวข้อง บริษัทโฆษณาที่ดีจะต้องควบรวมทุกศาสตร์และศิลป์เข้าด้วยกัน ทั้งคิดครีเอทีฟ ดูมีเดียและโซเชียล ต้องรู้และทำเป็นหมดทุกอย่างถึงจะอยู่ได้ ผสมผสานทั้งไอเดียและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ถึงแม้จะทำเองไม่เป็น แต่ต้องรู้วิธีการจัดการ หาคนที่รู้เรื่องมาจัดการ

นอกจากนี้ คุณอัศวิน และ คุณสหรัฐ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายไว้อีกว่า Creative Trends สำหรับผู้ประกอบการในยุคนี้ต้องต้องมี คือ

คุณหนึ่ง อัศวิน – สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องมี คือ การเข้าใจหน้าที่และจุดประสงค์ของตัวเองและลูกค้า เพื่อที่จะรู้ว่าเขาต้องการอะไร และเราสามารถทำอะไรให้เขาได้บ้าง ได้ยกตัวอย่าง บริษัท Bose ผู้ผลิตหูฟังที่ปิดร้านค้าปลีกทั้งในอเมริกาเหนือ ยุโรป ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของ Bose มีการซื้อผ่านอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ในขณะที่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเปิดเหมือนเดิม ที่เป็นอย่างนี้ไม่ใช่ว่าเขาขาดทุน แต่เพราะเข้าใจตัวเองและพฤติกรรมลูกค้าว่าต้องการอะไร และรู้ว่า ไม่รู้จะเปิดไปทำไม!?

คุณชาย สหรัฐ – สิ่งที่ต้องผู้ประกอบการต้องมี คือ การเพิ่มไอเดียให้ตัวเอง หาความรู้ใหม่ เพื่อให้ทันโลกนี้ที่เปลี่ยนตลอดเวลา เราจะไม่เปลี่ยน ไม่ได้! ตราบใดที่ต้องทำงานครีเอทีฟ เราต้องสร้าง effectiveness ให้กับลูกค้าให้ได้

อ่านสรุปทุกบทความน่าสนใจจากงาน CTC2020 ได้ที่นี่!

Related Articles

libero Donec commodo in accumsan mi, Praesent amet, id Aenean